ธุรกิจขายตรงคืออะไร?
สมัยก่อน.. หลายคนคงนึกภาพที่มีนักขายเดินไปตามบ้านของผู้คนแบบไดเร็คเซลล์ เพื่อกดกริ่งหรือเคาะประตูบ้านหรือยืนเรียกลูกค้าอยู่หน้าบ้าน เพื่อจะนำเสนอขายสินค้าและบริการ เช่น เครื่องกรองน้ำ ที่นอน โต๊ะ เก้าอี้ สินค้าเงินผ่อน ล็อตเตอรี่ รถเร่ขายผักผลไม้ ขายไอศรีม ขายชา/กาแฟ ขายบริการลับมีด ดู-ดวงชะตาชีวิต ดูลายมือ ขายประกันชีวิต เสนอขอสาธิตสินค้าต่างๆ ก่อนปิดการขาย ฯลฯ จนคุ้นชินกันยาวนาน
เมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไปตามกระแสนิยมและเทคโนโลยีของโลกที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ปัจจุบัน! ก็มาฮิตขายสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตโลกออนไลน์กันจนเป็นเทรนใหม่ อย่างเช่น ขายสินค้าทางเว็บไซต์ เว็บแอปพิเคชั่น(web application) แอปแอนรอดย์ แอปไอโฟน(IOS) ไลน์แอด@ เว็บตะกร้าสินค้า ช๊อปปี้ ลาซาด้า เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ติ๊กต๊อก ยูทุป หรือเจอเว็บไหนพอที่จะฝากขายสินค้าได้ ก็ฝากขายทันที และยังมีช่องทางอื่นๆ อีกมากมาย เท่าที่นักขาย นักการตลาดจะสรรหาช่องทางการขายสินค้าได้ ก็จะพยายามจัดกันไปแบบไม่ยั้ง
การตลาดแบบขายตรง (Multi-level Marketing) ในประเทศไทย ปี 2564 มียอดขายรวมประมาณ 63,800 ล้านบาท ซึ่งไม่น้อยเลย จึงทำให้มีบริษัขายตรงน้องใหม่ทะยอยเปิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ทุกปี เพื่อหวังที่จะแชร์ส่วนแบ่งยอดขายทางการตลาด ส่วนยอดขายตลาดขายตรงโลกมียอดประมาณ 5.9 ล้านล้านบาท จึงมีสมาชิกขายตรงที่มีรายได้หลักล้านต่อเดือนเกิดขึ้นมากมายทั่วโลกรวมทั้งในประเทศ ล่าสุดมีนักธุรกิจอิสระหรือสมาชิกขายตรงทั่วโลกจำนวนประมาณ 128.2 ล้านคน และนักธุรกิจอิสระหรือสมาชิกขายตรงในประเทศไทยมากกว่า 11 ล้านคน
ธุรกิจขายตรง พอที่จะแยกออกได้เป็น 2 มุมมอง ของผู้ที่ก้าวเข้ามาสู่ในธุรกิจการตลาดแบบขายตรง(Multi Level Marketing) or (Direct Sales Network Marketing) ได้ดังนี้.-
มุมมองธุรกิจขายตรง แบบที่ 1 มุมมองของผู้ที่เข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัทขายตรง
ชื่อเรียกนักธุรกิจขายตรง ที่นิยมใช้กัน ก็คือ 1.สมาชิก หรือ 2.ผู้จำหน่ายอิสระ
** สาเหตุที่บุคคลทั่วไป ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับบริษัทขายตรง อาจมีเหตุจากการชักชวนของเพื่อนที่รู้จักกัน จากการชวนของเครือญาติ พี่ น้อง จากมีคนชวนพยามยามตื้อแล้วตื้ออีกก็เลยสมัครไปเพื่อตัดความรำคาญ จากคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนตีสนิทชักชวน จากการอ่านเอกสารโฆษณา อ่านประกาศในอินเตอร์เน็ต เว็บโฆษณาสินค้า จากการซื้อสินค้าใช้แล้ว รู้สึกดีกับสินค้า ประทับใจในตัวสินค้าก็มี และบางคนได้เห็นแผนการตลาดแล้วรู้สึกว่าแผนฯ นี้ดีมากก็เลยตัดสินใจสมัครก็มี และยังมีอีกหลายสาเหตุในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกขายตรงที่แตกต่างกันไป
สิ่งที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัทขายตรง:
1. ได้รับบัตรสมาชิก และคู่มือสมาชิกจากทางบริษัท เพื่อใช้ประกอบในการทำธุรกิจขายตรง
2. มีสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาสวนลดสมาชิก ประมาณ 10%-30% ยก ตย. สินค้าขายปลีกในราคา 100 บาท ก็จะซื้อได้ในราคาสมาชิกที่ 80 บาท เป็นต้น
3. มีสิทธิ์สั่งซื้อสินค้าโดยตรงกับทางบริษัท โดยไม่ต้องผ่านผู้จำหน่ายอิสระรายอื่น ที่อาจต้องซื้อสินค้าในราคาเต็มหรือราคาปลีก ที่ไม่มีส่วนลด
4. มีสิทธิ์ในการขยายทีมงานหรือสร้างทีมภายในองค์กรการตลาดของตัวเอง โดยบริหารงานผ่านซอฟร์แวร์การตลาดของบริษัทขายตรงนั้น
5. มีสิทธิ์ได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนตามแผนการตลาด และได้สวัสดิการโปรโมชั่นทางการตลาดต่างๆ ที่ทางบริษัทได้จัดขึ้นมา
6. มีสิทธิ์ได้รับแพีคเกจการท่องเที่ยวฟรี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามโปรโมชั่นที่บริษัทกำหนดขึ้น
7. มีสิทธิ์ได้เข้าร่วมการฝึกอบรม สัมมนา เพื่อพัฒนาความรู้ทางด้านสินค้าและการทำการตลาดขายตรงอย่างถูกวิธีกับทางบริษัท
8. มีผู้แนะนำและอัพไลน์ในสายงาน รวมทั้งวิทยากรของบริษัท ค่อยให้ความรู้และคำแนะนำในการเริ่มต้นทำธุรกิจขายตรง
9. ได้พบเพื่อนและมิตรภาพใหม่ๆ ในสังคมการตลาดแบบขายตรง ที่แตกต่างจากสังคมทั่วไปอีกรูปแบบหนึ่งเพิ่มขึ้นเป็นประสบการณ์
10. ผลพลอยได้มีสมาชิกหลายท่านได้มาพบเนื้อคู่ให้เห็นในธุรกิจนี้ เพราะเหตุจากการได้พบเจอผู้คนที่มากมายในธุรกิจแบบขายตรง
ซึ่งการได้เข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกขายตรงนั้น ทำให้หลายคนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นมามากก็มีให้เห็นกันหลายท่าน ดังนั้น.. ถ้าใครตั้งใจทำอย่างจริงจังขยันมั่นขนขวายหาความรู้ในการทำงานเพื่อให้ประสบความสำเร็จจนถึงขั้นเป็นเศรษฐีใหม่ก็มีให้เห็นกัน หรือสมัครเข้าเป็นสมาชิกก็ทำได้แค่พอกินพอใช้ก็มี การเข้าร่วมเป็นสมาชิกแบบไม่ได้ตั้งใจทำงานไม่ขยายงานทีมจริงจัง ไม่พยายามศึกษาหาความรู้เพิ่มในธุรกิจด้านนี้ให้มากยิ่งขึ้น(ปกติบริษัทจะมีหลักสูตรอบรมให้ฟรี) ก็จะเป็นการยากที่จะได้ประสพความสำเร็จในธุรกิจนี้
แต่ที่น่าเห็นใจก็คือ สมาชิกที่ถูกแม่ทีมบางคนหลอกให้ลงทุนเงินซื้อสินค้าเก็บเอาไว้เยอะๆ เพื่อทำยอดคะแนนให้มากๆ เพียงต้องการจะขึ้นตำแหน่งสูงๆ เอาไว้ก่อน ก็คือการทำงานแบบผิดวิธีไม่แนะนำเลย บางคนอาจจนถึงขั้นเดือดร้อนหรือหมดตัวก็มี ดังนั้น..การทำธุรกิจขายตรง ควรสร้างยอดขายจากผลงานการขยายทีมงานที่เกิดขึ้นจริงจะดีที่สุด จึงเป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจในทุกประเภทย่อมมีคนที่ทำแล้วสำเร็จและทำแล้วไม่สำเร็จปะปนกันไปเป็นเรื่องปกติ
คำที่นิยมใช้กันในธุรกิจขายตรงก็คือ "ใช้ดีแล้วบอกต่อ" ก็คือ ถ้าใช้สินค้าแล้วดี ใช้สินค้าแล้วปัง ใช้แล้วเห็นผลชัดเจน ก็บอกต่อคนอื่นซิ หรือก็ทำการแนะนำคนอื่นต่อๆ ไปซิ การทำงานแบบธุรกิจขายตรง มันก็มีแค่นี้เอง (สุจริต จริงใจกับผู้อื่น คือหัวใจของผู้นำ)
จึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ธุรกิจขายตรงแบบเครือข่าย" หรือ "ธุรกิจขายตรงแบบมัลติเลเวล" นั้นเอง (Direct Selling Network Business) or (Multi Level Marketing)
กดที่ "NEXT" อ่านต่อ..
มุมมองธุรกิจขายตรง แบบที่ 2 มุมมองของผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงหรือเจ้าของบริษัทฯ
ก็คือ ธุรกิจขายตรงก็เป็นแค่อีกหนึ่งช่องด้านทางการตลาดนั่นเอง ที่ไม่ใช่การขายสินค้าแบบดั่งเดิมอื่นๆ ทั่วไป ในการจัดจำหน่ายสินค้าที่ทางบริษัทมีอยู่หรือผลิดขึ้นมาเอง ทุกบริษัทก็ต้องการที่จะให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเองขายให้ได้มากที่สุดให้จงได้ ต้องการให้สินค้ากระจายออกไปสู่มือของผู้บริโภค จึงทำให้บางบริษัทฯ ตัดสินใจเลือกหลักการของระบบเครือข่ายแบบขายตรงมาใช้ในการดำเนินเป็นธุรกิจของบริษัท หรือจะเรียกว่า ธุรกิจการขายสินค้าแบบปากต่อปาก แบบผู้บริโภคถึงผู้บริโภค (Consumer to Consumer)
เมื่อสมาชิกได้ซื้อสินค้าไปใช้เองแล้ว ในเมื่อใช้สินค้าดี รู้สึกประทับใจสินค้าแล้ว ก็ช่วยบอกต่อคนอื่นๆ ต่อไปซิ ..ก็ให้สมาชิกทำแค่นี้เอง สมาชิกก็จะมีรายได้หรือผลประโยชน์ตอบแทนกลับมาแล้ว หรือเป็นการใช้พลังมวลชนให้ไปชักชวนคนทั่วๆ ไป ให้สมัครเข้ามารวมเป็นสมาชิกของบริษัทให้ได้มากที่สุด
แท้จริงแล้ว ตัวของสมาชิกนี่เองแหละ ที่เป็น "ผู้บริโภคสินค้า" ที่ซื้อสัตย์ที่สุดของบริษัทขายตรงเป็นอันดับแรกกันเลยก็ว่าได้ นี่คือความเป็นจริงของธุรกิจนี้
การตลาดแบบขายตรง สรุปก็คือ บริษัทมอบหมายให้สมาชิกเป็นคนช่วยขายสินค้าให้กับบริษัท ช่วยกระจายสินค้าไปให้กับคนอื่นๆ แทนการพึ่งพาพ่อค้าส่ง/พ่อค้าปลีก แทนการจ้างบริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้า แทนการจ้างเซลล์หรือจ้างพนักงานขาย ที่ต้องจ่ายเงินเดือนให้กับเค้าด้วย จึงเป็นวิธีการกระจายสินค้าของบริษัทอีกรูปแบบหนึ่ง แทนวิธีการขายสินค้าแบบดั่งเดิม
ข้อดี: ของการตลาดแบบขายตรง ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทางบริษัทไม่ต้องจ่ายค่าจ้างหรือเงินเดือนประจำแต่อย่างใดเลย ให้กับสมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระเลยสักบาท เพียงแค่อาศัยหลักการของแผนการตลาดขายตรง ที่ทางบริษัทได้คิดค้นหรือออกแบบแผนการจ่ายขึ้นมาเอง หรือบางบริษัทก็ใช้การก๊อปปี้แผนการตลาดของบริษัทอื่นมาใช้เลยก็มี เพื่อทำให้บริษัทมีรูปแบบของระบบบคำนวณค่าโบนัสตามแผนการตลาดและสามารถคำนวณผลงานของสมาชิกแต่ละคน เพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินผลประโยชน์ตอบแทนรายได้ให้กับสมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระได้อย่างมีระบบและหลักการที่แม่นยำเที่ยงตรง
สิ่งที่ผู้ประกอบการขายตรงได้ ก็คือสมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระ แต่ละคนจะต้องลงแรง ลงทุนความสามารถของตัวเอง ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ ความขยันในการสร้างเครือข่ายทีมงานของตัวเองไปก่อน สมาชิกต้องพยายามสร้างทีมงานภายใต้สายงานให้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ถ้า..ทีมของสมาชิกยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ระบบคำนวณแผนการตลาดหรือแผนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ก็จะส่งผลตอบแทนมอบกับคืนมาเป็นเงินรายได้ให้กับสมาชิก, ใหกับแม่ทีมที่มากยิ่งขึ้นไปด้วย
ว่ากันด้วย เรื่องการขายเก่งส่วนตัว(แค่เพียงอย่างเดียว) จริงแล้วไม่ค่อยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบงานขายก็สามารถเข้ามาทำงานขายตรงได้เช่นกัน มีสมาชิกหลายท่านที่สมัครเข้ามาเพื่อทำงานแบบเน้นแต่งเรื่องการขยายทีมเป็นหลักสำคัญล้วนๆ ก็มีให้เห็นมากมาย (แต่ถ้าใครชอบงานขาย เพราะว่าขายเก่งส่วนตัวในงานตัวแทนขายประกันชีวิต อันนี้ซิ รับรองว่ารวยแน่ๆ)
..ในการทำงานธุรกิจเครือข่ายแบบขายตรง ถ้าสมาชิกท่านใดขายสินค้ายอดส่วนตัวเก่งแค่เรื่องเดียว แต่ขยายทีมงานภายใต้องค์กรไม่เก่งหรือไม่เป็นเลย ก็จะได้แค่เงินกำไรหรือผลประโยชน์จากการขายส่วนตัว(ในแผนการตลาดขายตรง จะเรียกว่า รายได้จากโบนัสยอดขายส่วนตัวหรือโบนัสส่วนบุคคล) ไปแค่พอประมาณที่เพิ่มขึ้นมาอีกจากการเก่งคนเดียว
ระบบขายตรงหรือระบบการตลาดแบบเครือข่ายชื่อก็บอกแล้วว่า มันเป็นระบบเครือข่าย คือการโยงใยผู้คนมากมายให้มาเกี่ยวเนื่องในการทำงานด้านการตลาดร่วมกัน ดั้งนั้นการสร้างทีมงานการขยายงานองค์กรให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาเป็นอันดับแรกๆ ที่จะทำให้สมาชิกก้าวไปสู่ความสำเร็จในงานสาขาอาชีพนี้ได้เท่านั้น
จึงมีคำพูดของนักการตลาดแบบขายตรง ว่า "ขายเก่ง หรือจะสู้นักขยายงานสร้างทีมเก่งไม่ได้หรอก" หรือคำว่า "ใครที่ขายเก่งอย่างเดียว ก็ไม่มีทางมีรายได้มากมายเท่ากับสมาชิกที่เป็นนักขยายทีมงานเก่งได้อย่างแน่นอน" หรือคำว่า "สมาชิกที่เป็น นักขยายทีมงานเก่งจะทำแค่ซื้อสินค้าเพื่อรักษายอดเท่านั้นก็พอ แต่จะเอาเวลาทั้งหมดไปเน้นทำงานด้านการขยายทีมงานให้ได้มากที่สุด" ทำแค่นี้ก็ทำให้มีรายได้มากมายแล้วละ
แม่ทีมสมาชิกท่านใด ที่เป็นนักขยายทีมงานก็เก่ง เป็นนักแนะนำสมาชิกใหม่เก่ง เป็นนักฝึกอบรมก็เก่ง เป็นนักพัฒนาภาวะการเป็นผู้นำเก่ง เป็นนักพูดทีดี(หรือเป็นนักบรรยายที่ดี) เป็นผู้ที่มีสภาวะผู้นำสูงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทีมงานได้ เป็นนักจัดประชุมสัมนาทั้งนอกและในบริษัท เป็นนักจัดประชุมแบบเฮ้าท์มิตติ้งหรือโฮมมิตติ้งก็เก่ง ถ้ายิ่งเก่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี นั่นแหละ จะส่งผลให้เป็นที่มาของรายได้ของสมาชิกท่านนั้น ที่มากมาย
ข้อคิด: แต่ถ้าสมาชิกท่านใด ขายสินค้าเองก็เก่ง ขยายทีมงานก็เก่ง แบบนี้แบบนี้ต้องยกนิ้วโป้งให้ไปเลย จะเรียกว่า "เสือติดปีก" ที่จะได้พบกับความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน อนาคตก็คือ ว่าที ผู้ประสบความสำเร็จ "คนรวย"
ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงหรือเจ้าของบริษัทขายตรง ถ้าบริษัทไหนยิ่งมีแม่ทีมและมีสมาชิกที่ขยายทีมงานเก่งเยอะๆ มีสมาชิกที่มีสภาวะผู้นำสูงมากหลายๆ ท่าน และมีจำนวนสมาชิกภายในบริษัทจำนวนหลายหมื่นรหัส หลายแสนรหัส หลายล้านรหัส ก็ย่อมส่งผลให้สินค้าของบริษัทยิ่งขายได้ดีมากขึ้น เป็นเงาตามตัวไปด้วย
กดที่ "NEXT" อ่านต่อ..
สรุป: บริษัทขายตรงบริษัทไหน ถ้ามีสมาชิกในระดับผู้นำอยู่ในบริษัทมากๆ มีสมาชิกที่มีรายได้มากๆ ร่วมทำงานอยู่ด้วยกับบริษัทหลายๆ คน ก็ย่อส่งผลให้เจ้าของบริษัทของตรง บริษัทนั้นมียอดขายรวมของผลประกอบการบริษัทที่ยิ่งมากขึ้น เจ้าของบริษัทก็ยิ่งประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้นอีกไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามเจ้าของบริษัทขายตรง ก็ย่อมมีราได้ที่สูงมากกว่าสมาชิกในระดับผู้นำของบริษัทยิ่งขึ้นไปอยู่แล้ว เพราะเจ้าของบริษัทขายตรงจริงแล้ว ก็คือเจ้าของสมาชิกทั้งหมดในบริษัท หรือจะเรียกว่า "แม่ทีมใหญ่สูงสุด" ที่อยู่บนยอดสูงสุดของบริษัท นั่นเอง (จบบทความ)
** รับพัฒนาโปรแกรมขายตรง รับออกแบบแผนการตลาดขายตรง รับงานเป็นที่ปรึกษาบริษัทขายตรง รับทำเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทขายตรง รับทำเว็บขยายสายงานMLM รับทำเว็บแม่ทีมโคลนนิ่งแจกเว็บฟรี ให้กับสมาชิกในทีมงานของตัวเอง รับปรึกษาเรื่องการเตรียมเอกสาร ยื่นขอ สคบ. มีบริการให้เช่าคราวด์เซฟเวอร์ สำหรับงานธุรกิจขายตรง มีบริการหลังการใช้งาน มีบริการแบ๊คอัพโปรแกรมและข้อมูลสมาชิกอันมีค่า มีบริการอัพเกรดโปรแกรมรุ่นใหม่ๆ ประสบการณ์ทีมยาวนานมากกว่า 30 ปี ในงานการตลาดแบบขายตรง
** รับสมัครฝึกอบรมผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงรายใหม่ เข้าคอร์ส..อบรมการเป็นผู้ประกอบการขายตรง(น้องใหม่) ที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง สิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ควรทำ สิงที่ไม่ควรทำ มีอะไรบ้าง ข้อควรระวัง: ในการบริหารงานอย่างไรไม่ให้ผิดพลาดหรือขาดทุน รูปแบบแผนการตลาดต่างๆ การออกแบบแผนการตลาดที่ดี การเลือกสรรสินค้ามาขายในบริษัทขายตรง วิธีบริหารงานแม่ทีมหรือสมาชิกขายตรงให้มีประสิทธิภาพ ข้อกฎหมายในการประกอบธุรกิจขายตรง กฎระเบียนของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. วิธีวางระบบการทำงานในบริษัทขายตรงที่ดี การเลือกใช้ซอฟร์แวร์โปรแกรมบริหารงานธุรกิจขายตรงที่มีคุณภาพ การฝึกอบรมพัฒนาความรู้ให้กับผู้จำหน่ายอิสระ/สมาชิก การออกแบบโปรโมชั่นต่างๆ ให้เหมาะสมตามช่วงเวลา
***************************************************
พิเศษ: ด่วน!! เปิดคอร์สฝึกอบรมวิธีการทำธุรกิจขายตรง สำหรับนิสิต นักศึกษา พ่อบ้าน แม่บ้าน พ่อค้า นักธุรกิจ ผู้ใฝ่รู้ และบุคคลทั่วไป ที่เคยทำธุรกิจขายตรงแล้ว ชอบบ่นว่าทำไมทำยากจัง ทำไมทำแล้วไม่สำเร็จสักที ทำไมคนอื่นเค้าทำแล้วสำเร็จกันได้ละ แต่ทำไมเราทำแล้วไม่เห็นไปถึงไหนสักที หรือคนที่ชอบบ่นว่า ขายตรงเหรอ? ก็คือธุรกิจหลอกลวง มาศึกษาอบรมให้เช้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยื่น แล้วคนที่เค้าทำแล้วไม่สำเร็จ ก็เพราะไม่ได้ตั้งใจทำ หรือทำแบบไปวันๆ หรือเพระไม่รู้วิธีทำที่ถูกต้อง ใช่หรือไม่ หรือเหตุผลที่จริงแล้ว มันเป็นเพราะอะไรกันแน่??
**มีผู้นำขายตรงระดับชั้นแนวหน้าของประเทศที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจขายตรง มีรายได้ที่มากกว่าเดือนละ 2 ล้าน -10 ล้านบาทต่อเดือน หลายๆ ท่าน ชอบพูดว่า...
"ขยันผิดที่ ทำอีก 10 ปีก็ไม่รวย" ท่านเข้าใจไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร? อ่านต่อ(คลิ๊ก)
** สนใจสอบถาม จองคอร์สการอบรม ได้ที่นี่....(เปิดรับสมัตรอบรมคอร์สพิเศษนี้ รอบละไม่เกิน 30 ท่าน/ต่อรอบ)
แอดไลน์:
Line ID: promlm
Friend: https://line.me/ti/p/8qXFT280ON
(**ส่งคำอธิบายแผนฯ มาเพื่อปรึกษา)
Tel: 080-787-08-05 , 096-39-18-21-6, 080-254-13-88
Email: tamwebsit(แอส)gmail.com
หมายเหตุ: สงวนลิขสิทธิ์ข้อความในเว็บไซต์นี้ทุกกรณี ตามข้อบัญญัติของกฎหมาย **ห้ามก๊อปปี้ข้อความหรือแม้แต่เพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อนำไปเผยแพร่หาผลประโยชน์ส่วนตัวในเว็บไซต์อื่น อย่างเด็ดขาด